Bid Ask Spread เป็นคำศัพท์พื้นฐาน 3 คำที่เทรดเดอร์ต้องเข้าใจเมื่อเข้าร่วมการเทรด Forex เนื่องจาก Bid/Ask เป็นจำนวนเงินที่คำสั่งซื้อและขายของเทรดเดอร์ได้จับคู่ และ Spread คือค่าใช้จ่ายที่เทรดเดอร์ต้องจ่ายเมื่อทำธุรกรรม โดยเฉพาะ ราคา Bid-Ask และ Spread คืออะไร จะคำนวณ spread forex ได้อย่างไร มาหาคำตอบกับ Mandeville Beer Garden ผ่านบทความด้านล่างกันนะ
เนื้อหา
ราคา Bid Ask คืออะไร
Bid และ Ask เป็นคำศัพท์สองคำที่ใช้บ่อยมากเมื่อเทรด Forex และหุ้น ในนั้น:
- ราคา Bid (ราคาซื้อ): นี่คือราคาที่ตลาดพร้อมจ่ายเพื่อซื้อสินทรัพย์หรือสินค้าใด ๆ นี่คือราคาสูงที่สุดที่ตลาดจะเปิดให้คุณได้เมื่อคุณเปิดคำสั่งขาย (Sell)
- ราคา Ask (ราคาขาย): นี่คือราคาที่ตลาดขายหรือราคาต่ำที่สุดที่ผู้ขายยอมรับได้ เมื่อคุณเปิดคำซื้อ (Buy) ราคานี้จะเป็นราคาที่ระบุในคำสั่งซื้อของคุณเมื่อซื้อสินทรัพย์หรือสินค้าบนตลาด
ในตลาด forex ราคา Bid และราคา Ask จะอยู่คู่กันเสมอ มันแสดงถึงราคาซื้อและราคาขายระหว่างโปรกเกอร์และนักลงทุน โดยปกติแล้ว ราคา Ask จะสูงกว่าราคา Bid และส่วนต่างระหว่างราคา Bid และ Ask คือค่าใช้จ่ายที่คุณต้องเสียเมื่อทำธุรกรรม
>>> ดูข้อมูลเพิ่มเติม: Lot คืออะไร
Spread คืออะไร
Spread หรือเรียกอีกชื่อว่า “ความแตกต่างระหว่างราคา Bid (ราคาซื้อ) และ ราคา Ask (ราคาขาย)” ของทรัพย์สิน ค่า Spread นี้เป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายที่นักลงทุนต้องจ่ายเมื่อทำการเทรดหรือเป็นแหล่งรายได้สำหรับโบรกเกอร์หรือบริษัทหลักทรัพย์
Spread = Ask – Bid
Spread สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามตลาดและแตกต่างกันสำหรับทรัพย์สินแต่ละประเภท ทรัพย์สินที่มีสภาพคล่องสูงมักจะมี Spread เล็กกว่าทรัพย์สินที่มีสภาพคล่องต่ำ
เทริด spread สามารถใช้เพื่อประเมินสภาพคล่องของทรัพย์สิน spread เล็กโดยทั่วไปแสดงถึงความเป็นที่ตลาดมีสภาพคล่องดี ในขณะที่ spread ใหญ่แสดงถึงสภาพคล่องไม่ดีและความยากฃในการเทรดทรัพย์สิน
เทรดเดอร์ที่เทรดระยะสั้นจะชอบเลือกสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง เพราะพวกมันมักจะเปิดออเดอร์จำนวนมากในระหว่างวัน spread จะส่งผลต่อกำไรอย่างมาก นักลงทุนระยะยาวมักจะไม่สนใจเรื่อง spread มากนัก
ประเภท Spread นิยมใน forex
ในการเทรด forex คุณมักจะเจอ Spread หลัก 2 ประเภท: spread คงที่ และ spread แปรผัน Spread แต่ละประเภทจะมีข้อดีและข้อเสียดังนี้:
1. Spread คงที่
Spread คงที่ (Fixed Spread) แสดงความต่างระหว่างราคา Bid และราคา Ask ไม่เปลี่ยนแปลงไม่ว่าเงื่อนไขตลาดจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร spread คงที่ช่วยให้นักเทรดสามารถคำนวณต้นทุนการเทรดและจัดการความเสี่ยงได้อย่างง่ายดาย
ข้อดี:
- สำหรับ spread คงที่ คุณสามารถคำนวณต้นทุนการเทรดได้ง่ายก่อนดำเนินการเทรดทุกครั้ง เนื่องจาก spread คงที่ไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาด
- คุณสามารถกำหนดระดับกำไรและความเสี่ยงได้ง่ายก่อนที่จะเปิดคำสั่งซื้อ
- ในระหว่างช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนมาก spread คงที่ยังคงเดิมที่ไม่เปลี่ยนแปลง สิ่งนี้ช่วยรักษา spread ให้อยู่ในขอบเขตที่คงที่และสามารถจัดการการเทรดในเงื่อนไขตลาดที่ท้าทายได้อย่างง่ายดาย
ข้อดี:
- Spread คงที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงตามการเคลื่อนไหวของตลาด และไม่สามารถใช้ spread เพื่อประเมินสภาพคล่องของทรัพย์สินได้
- Spread คงที่ spread คงที่อาจสูงกว่า spread แปรผันในเงื่อนไขตลาดที่เสถียร นี่อาจทำให้คุณพลาดโอกาสที่จะได้รับ spread ที่ดีกว่าในกรณีที่ตลาดเป็นกำไร
- Spread คงที่ spread คงที่ไม่ได้รับความนิยมในทุกคู่สกุลเงินและไม่ได้รับการนำเสนอโดยโบรกเกอร์ทุกแห่ง นี่อาจจำกัดตัวเลือกของคุณเมื่อต้องการเลือกทรัพย์สินหรือโบรกเกอร์
2. Spread แปรผัน
Spread แปรผัน ( spread ผันแปร) คือความแตกต่างระหว่างราคา bid และราคา ask ของสินทรัพย์ทางการเงินที่เปลี่ยนแปลงตามสภาวะตลาดเสมอ spread แปรผันจะถูกปรับตามความผันผวนของตลาด สภาพคล่อง และเงื่อนไขการเทรดในปัจจุบัน
เมื่อตลาดมีความผันผวนหรือสภาพคล่องลดลง spread มักจะกว้างขึ้น ซึ่งสามารถสร้างความแตกต่างที่มากขึ้นระหว่างราคาเสนอซื้อและราคาเสนอขาย เมื่อตลาดมีเสถียรภาพและสภาพคล่องดีขึ้น spreadสามารถแคบลงได้
ข้อดี:
- spread แปรผันจะถูกปรับปรุงตามปัจจัยความผันผวนของตลาดและสภาพคล่อง ซึ่งหมายความว่า spread จะสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างถูกต้อง
- ด้วยกลไกแบบลอยตัว spread สามารถแคบลงในสภาวะตลาดที่มีเสถียรภาพหรือมีสภาพคล่อง ซึ่งหมายความว่าผู้ค้าจะได้รับ spread ที่ดีที่สุดเมื่อตลาดมีเสถียรภาพ
- เลือก spread แปรผัน คำสั่งของคุณจะถูกดำเนินการเมื่อใดก็ได้ ด้วยวิธีนี้ คุณจะไม่พลาดโอกาสที่ดีในการเทรด
- การเปลี่ยนแปลงของ spread แปรผันสะท้อนถึงสถานการณ์ของตลาดและปัจจัยความผันผวน ดังนั้นนักเืทรดจำเป็นต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงของ spread เพื่อประเมินตลาด
ข้อเสีย:
- เนื่องจาก spread แปรผันสามารถแปรผันตามสภาวะตลาดได้ จึงเป็นเรื่องยากสำหรับเทรดเดอร์ที่จะคาดการณ์ค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมได้อย่างแม่นยำ ทำให้การคำนวณและการจัดการความเสี่ยงยากขึ้น
- ในช่วงเวลาที่ตลาดผันผวนสูง spread แปรผันสามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว สิ่งนี้จะเพิ่มความเสี่ยงให้กับผู้เทรดและอาจทำให้ราคาสูญเสียในการค้าขาย
วิธีคำนวณค่า spread ใน forex
ในการเทรด forex spread คือความแตกต่างระหว่างราคา bid และราคา ask ของคู่สินทรัพย์ ต่อไปนี้เป็นขั้นตอนในการคำนวณ spread เมื่อทำการเทรด Forex:
- ขั้นตอนที่ 1: กำหนดราคา bid และราคา ask: บนโปรกเกอร์การเทรด forex ราคา bid และราคา askของคู่สกุลเงินจะแสดงอย่างละเอียดเสมอ
- ขั้นตอนที่ 2: คำนวณ spread : spread คำนวณโดยใช้สูตร: Spread = Ask – Bid
ตัวอย่างเช่น: หากราคา Bid ของคู่สกุลเงินคือ 1.2000 และราคา Ask คือ 1.205 spread จะถูกคำนวณดังนี้: 1.205 – 1.2000 = 0.0005 หรือ 5 pips
ปัจจัยที่มีผลต่อราคา Bid/Ask และ Spread
มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา Bid/Ask และ Spread ในตลาด Forex นี่คือปัจจัยสำคัญบางประการ:
- สภาพคล่องของสินทรัพย์อาจส่งผลต่อราคา Bid/Ask และ spread หากสินทรัพย์มีสภาพคล่องสูง มีผู้ซื้อและผู้ขายจำนวนมาก spread มักจะเล็กลง ในทางกลับกัน หากสินทรัพย์มีสภาพคล่องต่ำ spread อาจสูงขึ้น
- ความผันผวนของตลาด: ความผันผวนของตลาดอาจส่งผลต่อราคา bid/ask และ spread ลาดมีความผันผวน spread สามารถกว้างขึ้นได้ เมื่อตลาดมีเสถียรภาพมากขึ้น spread สามารถแคบลงได้
- การแข่งขันระหว่างโบรกเกอร์: การแข่งขันระหว่างโบรกเกอร์ forex อาจส่งผลต่อราคา bid/ask และ spread สำหรับสินทรัพย์ประเภทเดียวกัน โบรกเกอร์สามารถใช้ spread ที่แตกต่างกันเพื่อแข่งขันกันได้ สิ่งนี้สามารถนำไปสู่ความแตกต่างของ spread ระหว่างโบรกเกอร์
- ข่าวและกิจกรรมทางการเงิน: ข่าวและกิจกรรมทางการเงินสามารถมีผลกระทบอย่างมากต่อราคา Bid/Ask และ spread เมื่อมีข้อมูลสำคัญหรือเหตุการณ์เกิดขึ้น โปรกเกอร์ จะขยาย Spread เพื่อป้องกันความเสี่ยง
ปัจจัยข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างบางส่วน และอาจมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่ส่งผลต่อราคา Bid/Ask และ spread ผู้ค้าควรตรวจสอบและทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้เสมอเพื่อทำการตัดสินใจเทรดที่เหมาะสมและจัดการความเสี่ยง
สรุป
บทความข้างต้นช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจว่า Bid Ask Spread คืออะไร และปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา Bid/Ask และ Spread สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้นักลงทุนจัดการความเสี่ยงและเพิ่มผลกำไร ดังนั้น อย่าเพิกเฉยต่อปัจจัยเหล่านี้เมื่อทำการเทรดนะ!